วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

อาการเวียนศีรษะ - วิงเวียน หน้ามืดและเป็นลม

อาการเวียนศีรษะ เป็นอาการเห็นเพดานหรือพื้นหมุน เป็นชั่วขณะเวลาที่ศีรษะมีการเคลื่อนไหว เช่น หันซ้ายขวา หรือก้มๆเงยๆ มักจะเกิดอาการคลื่นไส้ด้วย คนที่เกิดอาการบางคนอาจเดินเซไปเซมา ถ้ามีอาการมากอาจเดินไม่ไหว ส่วนอาการเวียนศีรษะ จะเป็นอาการ มึนงง ตาลาย แต่ไม่มีอาการเพดานหมุนหรือพื้นหมุน

อาการวิงเวียน โดยมากเกิดจากหูชั้นในอักเสบ หรือ อาจเกิดจากสมองขาดเลือดชั่วขณะในผู้สูงอายุ หรือ ทีไอเอ บางครั้งอาจมีสาเหตุจากบางโรคเช่น เนื้องอกในสมอง, โรคเมเนียส์ หรือ อาจเกิดจาก หูชั้นกลางอักเสบ



อาการเวียนศีรษะ ส่วนใหญ่จะพบในผู้ป่วยที่เกิดภาวะต่างๆ เช่น เป็นลม เป็นไข้ ไมเกรน แพ้ท้อง หรืออาจเกิดจากดื่มเหล้ามาก หรือ จากการฉีดยาบางชนิด

ส่วนใหญ่ผู้ที่เกิดอาการเวียนศีรษะหรือวิงเวียน มักจะเป็นผู้สูงอายุ ขาดการออกกำลังกาย เครียด นอนไม่หลับ อาการวิงเวียนจากสาเหตุเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องทานยา ให้รักษาตามสาเหตุที่เกิดเท่านั้น

แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยป้องกันอาการวิงเวียนที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ถ้ามีอาการเดินเซ แขนขาเป็นอัมพาต ตากระตุก ให้ไปพบแพทย์โดยด่วน

ถ้ามีอาการเป็นๆหายๆ โดยที่ยังไม่รู้สาเหตุควรไปโรงพยาบาลเพื่อเช็คร่างกายอย่างละเอียด

เป็นลม

เป็นลมคือสภาวะที่ผู้ป่วยหมดสติ ไม่รู้สึกตัวอย่างกะทันหัน อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เป็นลมธรรมดา, ช๊อกม น้ำตาลในเลือดต่ำหมดสติ เป็นต้น

อาการการเป็นลมธรรมดา

อาการนี้จะเจอมากในคนทุกเพศทุกวัย โดยมากเกิดจากร่ายกายเหนื่อยจัดหรืออ่อนเพลียมาก อยู่ที่กลางแดดร้อนจัด อบอ้าว ตื่นเต้นตกใจ หรือ เสียใจมากอย่างกะทันหัน อากาศไม่พอหายใจ อยู่ในกลุ่มคนที่แออัด ทำให้เกิดสภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ หมดสติไปชั่วขณะ แล้วจะฟื้นได้เอง ไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่ต้องระวังในคนที่เป็นลมแล้วล้มลงจากที่สูง อาจเกิดการกระดูกหักได้ โดยเฉพาะคนสูงอายุต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

อาการการเป็นลมจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจะเริ่มจากรู้สึกไม่ค่อยสบาย ศีรษะเบาหวิว เริ่มวิงเวียน พื้นโคลงเคลงหรือหมุน หูอื้อ ตาลาย เหงื่ออก อาเจียน มือเท้าเย็น ล้มลงหมดสติ ส่วนใหญ่จะฟื้นได้ในเวลารวดเร็ว

ข้อแนะนำการปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่มีอาการเป็นลม

ให้ผู้ป่วยที่มีอาการนอนศีรษะต่ำไม่ต้องหนุนหมอน ปลดกระดุมเสื้อและเข็มขัดให้หลวม อยู่ในที่อากาศถ่ายเท อาจให้ดมยาแอมโมเนียหอม ห้ามกินอะไรทางปากในขณะที่หมดสติอยู่ ใช้ผ้าเย็นเช็ดบริเวณใบหน้าและคอ

ถ้าผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัวอย่าเพิ่งให้รีบลุกหรือนั่งเพราะอาจเกิดอาการอีกครั้งได้ ถ้าผู้ป่วยเริ่มกินได้ ให้ดื่มน้ำ หรือ ดื่มน้ำหวาน หากผู้ป่วยยังฟื้นใน 15 นาทีรีบพาตัวไปพบแพทย์ ในกรณีผู้ป่วยหยุดหายใจให้ผายปอดโดยวิธีเป่าปาก

วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กาำรบำรุงผิวที่ไหม้เกรียมด้วยแดดด้วยว่านหางจระเข้

การบำรุงผิวที่ไหม้เกรียมด้วยแดดด้วยว่านหางจระเข้: คุณที่ชอบว่ายน้ำหรือชอบอาบแดดชายทะเล หรือชอบเล่นกีฬา ออกกำลังการกลางแจ้ง หากรู้สึกว่าผิวหน้าถูกไอแดดมากเกินควรหรือมากจนผิวหน้าไหม้เกรียม แสบๆตึงๆ คุณควรรักษาเยียวยาอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ไฝฝ้า กระ และจุดด่างดำจะเกิดขึ้นถาวรการบำรุงด้วยว่านหางจระเข้ สามารถรักษาผิดหน้าที่ไหม้เกรียมอย่างได้ผล หรือจะถนอมบำรุงเพื่อป้องกันไว้ก่อนออกแดด ก็จะทำให้ใบหน้าของคุณสดชื่น เปล่งปลั่ง แม้แต่สิวเสี้ยนต่างๆ และกระ ไฝ ฝ้า ก็จะถูกลบให้หมดสิ้นไปอย่างแสนง่ายดายหมั่นบำรุงบ่อยๆทุก 2-3 วัน



เครื่องประทินโฉม
วุ้นในใบว่านหางจระเข้ประมาณ ½ แก้วน้ำดื่ม

อุปกรณ์ประกอบ

  • มีดคมๆเล็กๆ
  • กระดาษทิชชู
  • เครื่องปั่น หรือส้อม
  • ที่คาดผมหรือหมวกคลุมผมสำหรับอาบน้ำ 

ขั้นตอนปฏิบัติ

  1. ใช้มีดคมๆ เฉือนโคนใบว่านหางจระเข้เพียง 1 ใบ พับกระดาษทิชชูแปะไว้ตรงตำแหน่งที่มีรอยถูกเฉือนตัดออกนั้น ใช้ปลายมีดคมๆ ลอกผิวใบออก จะได้วุ้นที่อยู่ภายในใบว่านหางจระเข้
  2. นำวุ้นเหล่านั้นใส่ชามเล็กๆ ใช้ส้อมค่อยๆ ยีเหมือนตีไข่เจียวจนกระทั่งวุ้นเหลวเละ หรือนำวุ้นที่ได้ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้พอเละเล็กน้อย ไม่ต้องถึงกับละเอียดเนียนมาก ล้างหน้าของคุณให้สะอาดสะอ้าน ด้วยโฟมล้างหน้ากับน้ำอุ่นๆ ใช้ผ้าขนหนูเช็ด ซับหน้าให้แห้งสนิท เก็บเส้นผมให้เรียบร้อยด้วยหมวกอาบน้ำหรือที่คาดผม เพื่อไม่ให้ผมหล่นมาปรกใบหน้า 
  3. ใช้ปลายนิ้วแตะวุ้นทาให้ทั่วบริเวณใบหน้าตั้งแต่บริเวณหน้าผาก แก้ม จมูก และ คาง ไม่ต้องทาบนเปลือกตา และริมฝีปาก ให้เว้นบริเวณนั้นไว้ ขณะที่ทาวุ้นไปทั่วๆใบหน้านั้นควรกดปลายนิ้ว นวดคลึงบนผิวหน้าให้ทั่วๆ ทั้งใบหน้าด้วย นอนหลับตาสบายๆ หรืออ่านหนังสือ โดยไม่ต้องพูดคุยกับใครไม่ต้องเคลื่อนไหวใบหน้านานประมาณ 25 นาที 
  4. เมื่อได้เวลาแล้วทำสะอาดใบหน้าด้วยน้ำอุ่นๆ กับโฟมล้างหน้า หรือสบู่ให้สะอาดสะอ้าน