วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2554

อาหารไม่ย่อย จุกเสียดแน่นท้อง ควรทำอย่างไร

อาหารไม่ย่อย มีอาการไม่สบายท้อง ปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่หรือยอดอก โดยมีอาการอย่างหนึ่งอย่างใดดังนี้ ผสมด้วย จุกเสียด ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ เรอเปรี้ยว แสบท้อง หรืออาเจียนเล็กน้อย โดยอาการจะเป็นบริเวณระดับเหนือสะดือเท่านั้น จะไม่มีอาการปวดท้องในบริเวณใต้สะดือ หรือไม่ผิดปกติในการขับถ่ายด้วย



ชนิดของอาการอาหารไม่ย่อยและสาเหตุ

  1. อาหารไม่ย่อยชนิดไม่มีแผล ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน อาจเกิดจากการหลั่งของกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป หรือ อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ ความเครียดทางด้านจิตใจ หรือ ฮอร์โมนบางอย่างผิดปกติ
  2. ภาวะกรดไหลย้อนกลับจากกระเพาะอาหารขึ้นไปหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการแสบลิ้นปี่ขึ้นมาลำคอ รวมถึง เรอเปรี้ยว อาจมีสาเหตุจาก ภาวการณ์ตั้งครรภ์ ความอ้วน มีกรดออกมากเกินไป การสูบบุหรี่ การรัดเข็มขัดแน่นเกินไป หรือ การใช้ยาบางอย่าง เช่นยาต้านแคลเซียม
  3. โรคกระเพาะหรือแผลเพ็ปติก, กระเพาะอาหารอักเสบ
  4. โรคของตับ ตับอ่อน และถุงน้ำดี เช่น นิ่วในถุงน้ำดี หรือ ตับอักเสบ
  5. เกิดจากยา เช่น แอสไพริน หรือ ยาที่มีสารสเตอรอยด์ รวมถึง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนทุกชนิด
  6. อื่นๆ เข่น ความเครียดหรือความวิตกกังวลมากเกินไป
อาการเหล่านี้พบได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก บางรายอาจมีประวัติกินยา ดื่มกาแฟ หรือ ดื่มเหล้า มีความเครียดสูง นอนไม่หลับ วิตกกังวล ในผู้ป่วยที่มีภาวะกรดไหลย้อนกลับจากกระเพาะขึ้นไปที่หลอดอาหาร จะมีอาการแสบบริเวณลิ้นปี่ขึ้นมาที่ลำคอรวมถึงมีอาการเรอเปรี้ยวด้วย เป็นมากในเวลาก้มตัวหรือนอนราบ

การรักษา
  • ถ้ามีอาการจุกเสียดแน่นท้อง เฉพาะหลังอาหาร ให้กินยาลดกรด วันละ 4 ครั้ง หรือเฉพาะตอนมีอาการ ถ้าแน่นท้องมาก หรืออาเจียน ให้กินยาเทโทโคลพราไมต์ ก่อนอาหาร 3มื้อ
  • สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการอาหารไม่ย่อยโดยที่ทานยาแล้ว 2 อาทิตย์แล้วยังไม่ดีขึ้น มีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด ถ่ายเป็นสีดำ ให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจอย่างละเอียด
ข้อแนะนำสำหรับ ผู้ป่วยอาหารไม่ย่อย 

  1. กินอาหารให้ตรงเวลาทุกมื้อ งดอาหารเปรี้ยวจัด ของดอง รสเผ็ดจัด อาหารมัน และอาหารสุกๆดิบๆ แนะนำให้กินอาหารมื้อเย็นก่อนเวลาเข้านอนไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป
  2. หลังกินอาหารอิ่ม ไม่ควรรัดเข็มขัดแน่นเกินไป และไม่ควรอยู่ในท่างอตัวหรือล้มตัวลงนอน
  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดบุหรี่ ชา กาแฟ น้ำอัดลม หลีกเลี่ยงการใช้ยาแอสไพรินด้ว
  4. ถ้าอ้วนเกินไป ควรลดน้ำหนัก
  5. ควรเคี้ยวอาหารอย่างละเอียด เคี้ยวช้าๆ อย่าเร่งกลืนอาหาร และอย่ากินอิ่มมากเกินไป
  6. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  7. ถ้าเครียด ควรหาวิธีคลายความเครียด เช่น ไหว้พระ นั่งสมาธิ หรือ ทำงานอดิเรก ฟังเพลง ปลูกต้นไม้ เล่นดนตรี เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น