วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

เป็นสิวทำไงดี – ต้นเหตุของการเกิดสิวและวิธีรักษา

สิวพบได้บ่อยในวัยรุ่น โดยเฉพาะช่วงเข้าสู่วัยหนุ่มสาว อายุ 17-19 ปี แล้วสิวจะค่อยๆหายไปในช่วง 25 ปีขึ้นไป เพศชายและเพศหญิงมีโอกาสเป็นสิวเท่ากัน

สาเหตุของการเกิดสิว ช่วงวัยรุ่น ร่างกายจะสร้างฮอร์โมนเพศ เช่นในเพศชายสร้างฮอร์โมนที่ชื่อว่า เทสโตสเตอโรน ฮอร์โมนชนิดนี้จะกระตุ้นให้สร้างต่อมไขมัน ที่บริเวณผิวหนังซึ่งจะสร้างไขมันออกมาเป็นจำนวนมากและจะระบายออกที่รูขุมขน และถ้าเกิดรูขุมขนเกิดการอุดตันจะทำให้เกิดการคั่งของไขมันที่รูขุมขน เกิดเป็นหัวสิว จะเกิด เป็นสิวเสี้ยน และ เมื่อเกิดการอุดตันมากขึ้น ไขมันจะสะสมในท่อจนพองและแตกออก ทำให้เกิดการอักเสบของสิว



การอักเสบยังอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย พีแอกเนส์ ที่อยู่ในต่อมไขมัน ซึ่งจะย่อยไขมันเป็นกรดไขมันอิสระ ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบ และสิวที่อักเสบนี้จะเป็น สิวหัวแดง และถ้าเกิดการอักเสบรุนแรงขึ้นไปอีก จะเป็น หัวสิวที่ปูดโปน ที่เรียกว่า สิวหัวช้าง กรรมพันธุ์ก็อาจมีความสัมพันธ์กับการเกิดสิว จากการวิจัยพบว่า ถ้าพ่อแม่เป็นสิว ลูกก็มีโอกาสอย่างมากที่จะเป็นสิว

ความวิตกกังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ การใช้ยา เช่นยาคุมกำเนิดบางชนิด การระคายผิว เช่นการใช้ผ้าถูหน้าแรงๆ หรือการขัดหน้า การใช้เครื่องสำอาง น้ำมันใส่ผม หรือการทำงานในที่ร้อนชื้น เหล่านี้ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวด้วย

ในช่วงแรกที่เริ่มเป็นสิว จะพบสิวหัวขาวหรือหัวดำในขนาดเท่าหัวเข็มหมุดที่แก้มหรือหน้าผาก บางคนอาจมีสิวขึ้นที่หลังหรือหน้าอกด้วย ต่อมามีการอักเสบ จะกลายเป็นสิวหัวแดง และตุ่มหนอง เมื่อหัวสิวยุบแล้ว อาจมีรอยสีน้ำตาลดำอยู่หลายอาทิตย์หรือเป็นเดือนก่อนจะจางหายไป ถ้าอักเสบมากจนกลายเป็นสิวหัวช้าง เมื่อหายแล้วอาจเป็นหลุมหรือกลายเป็นแผลเป็น

การรักษาสำหรับผู้เป็นสิว

  1. ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนหรือสบู่เด็กกับน้ำสะอาด วันละไม่เกิน 2 ครั้ง อย่าถูแรงๆหรือล้างหน้านานเกินไป และไม่ควรใช้สบู่มากเกินไปด้วย
  2. ประคบใบหน้าส่วนที่เป็นสิวด้วยน้ำอุ่นจัดๆ วันละ 1-2ครั้ง ครั้งละ ครึ่งชั่วโมง
  3. อย่าใช้เครื่องสำอางที่มีผลต่อต่อมไขมันและผิวหน้า เช่นครีมนวดหน้า หรือ ครีมบำรุงผม ครีมแก้รอยเหี่ยวย่นที่ผสมสเตอรอยด์
  4. ออกกำลังสม่ำเสมอ
  5. อย่าให้ตัวเองเครียดจนเกินไป เพราะจะยิ่งเป็นสาเหตุให้เป็นสิวมากขึ้น
  6. ห้าม บีบสิวโดยเด็ดขาด อาจทำให้ยิ่งอักเสบและลุกลามเป็นสิวมากขึ้น 

ถ้ายังเป็นแค่สิวเสี้ยนหรือสิวหัวขาวหรือสิวหัวดำอยู่ไม่อักเสบ ควรรักษาดังนี้

ใช้ยาทาสิวอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

  • ไอโซเทรติโนอิน ชนิด เจล ชนิด 0.05% ทาวันละครั้งก่อนนอน
  • เทรติโนอิน ชนิดเจลหรือครีม ชนิด 0.025%, 0.05% และ 0.1% ใช้ทาทั่วใบหน้า ยกเว้นซอกจมูกและรอบดวงตา วันละ 1ครั้งก่อนนอน
  • เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ ชนิดเจลหรือครีมชนิด2.5%, 5% และ 10% เริ่มต้นใช้ความเข้มข้นต่ำก่อน ให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 5-10นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด วันละ 2ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น