วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

ปวดหัวไมเกรน - โรคปวดหัวข้างเดียว

โรคปวดหัวข้างเดียว หรือ โรคปวดหัวไมเกรน จะพบได้ในคนประชากรทั่วไป ประมาณ 5-10% และพบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และช่วงอายุที่พบบ่อยคือ ช่วง 10-30 ปี โรคปวดหัวไมเกรนนี้มักเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ มักจะเริ่มเป็นช่วงเข้าวัยรุ่น โดยเฉพาะผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือน โรคนี้ปกติจะหายไปเองเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป



ไมเกรนไม่จัดว่าเป็นโรคร้ายแรง แต่สร้างความทุกข์ทรมานและความน่ารำคาญ ทำให้ไม่มีจิตใจที่จะทำงาน โรคไมเกรนเป็นได้กับคนทุกระดับ ทั้ง มีฐานะ และ สติปัญญา คนที่เป็นโรคนี้ มักมีนิสัย จู้จี้ขี้บ่น เจ้าระเบียบ ประมาณ 75% ของคนเป็นโรคไมเกรน มักมีญาติพี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย

สาเหตุของการเกิดโรคนี้ยังไม่เป็นแน่ชัด แต่จากการวิจัยพบว่า มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีชื่อ ซีโรโทนิน เป็นสารที่อยู่ในสมอง เมื่อโรคไมเกรนกำเริบ ซีโรโทนินจะลดลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอักเสบของเส้นใยสมองเส้นที่5 ร่วมกับการการหดตัวและขยายตัวของหลอดเลือดแดง ทำให้เลือดไปเลี้ยงเปลือกสมองน้อยลง ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะขึ้นมา

สาเหตุของการกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรน แต่ละคนมีสาเหตุต่างกัน เช่น

  • การใช้สายตาเพ่งภาพอะไรนานๆ เช่น หนังสือ ดูภาพยนตร์ เย็บปักถักร้อย เป็นต้น
  • การสูดได้กลิ่นฉุน เช่น ควันบุหรี่ กลิ่นสารเคมี กลิ่นน้ำมันรถ เป็นต้น
  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์
  • การนอนหลับไม่พอ หรือ การนอนตื่นสาย
  • การดื่มกาแฟมากเกินไป
  • การมีแสงสว่างจ้าเข้าตา เช่น แสงไฟกระพริบ กลางแดดจ้า
  • การนั่งรถ เครื่องบิน • การออกกำลังกายมากเกินไป
  • การถูกกระแทกอย่างแรงที่ศีรษะ เช่น ใช้หัวโหม่งลูกบอล
  • ความเครียด ความกังวล 

อาการ

มีอาการปวดศีรษะข้างใดข้างหนึ่ง ปวดตุบๆ บางครั้งอาจปวดสลับข้าง หรือปวดทีละสองข้าง ปวดตามจังหวะการเต้นของหัวใจ การปวดบางครั้งเป็นหลายชั่วโมงหรือเป็นวัน แต่ปกติไม่เกิน 3 วัน

บางคนอาจมีอาการตาพร่า ตาลาย ก่อนเกิดไมเกรน บางครั้ง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้าชา มือชา อ่อนเพลีย ริมฝีปากชา อาการปวดศีรษะนี้แม้ว่า ไม่กินยาก็มักจะหายเอง

การปฐมพยาบาลและรักษา

เมื่อเริ่มปวดศีรษะไมเกรน ให้นอนในที่เงียบๆ แสงสว่างน้อยๆ และกินยาแก้ปวด 1-2 เม็ด และควรกินทันทีที่ปวดหัว ถ้าปล่อยให้ปวดหัวเกิน 30 นาที อาจไม่ได้ผล ถ้าอาเจียน ให้กินยากแก้อาเจียนด้วย ถ้าปวดหัวอย่างรุนแรง ให้ไปพบแพทย์

ให้ผู้ป่วยสังเกตตัวเองว่า มีสาเหตุอะไรที่ทำให้ปวดหัวไมเกรนบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงจากสิ่งกระตุ้นนั้นๆ และถ้าปวดหัวไมเกรนบ่อย ควรมียาแก้ปวดหัว พกไว้ประจำตัวเสมอ และเมื่อมีอาการ ให้กินยาทันที และควรออกกำลังกายแต่พอเหมาะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น